“เราไม่สามารถซ่อมสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้” คือคำอธิบายผลงานข่าว Power Gap จากสำนักข่าว The Globe and Mail ในแคนาดา ที่สำรวจปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน ผลงานชิ้นนี้เข้ารอบไฟนอลเวทีรางวัลสื่อ 2021 Online Journalism Awards โดย Online News Association ที่จัดต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 22 แล้ว

แม้ในปี 2021 ที่ผ่านมา ข่าวใหญ่ที่ยังคงยืนหนึ่งยึดพื้นที่หน้าฟีดข่าวจะหนีไม่พ้นเรื่องโควิด-19 แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในวงการข่าวระดับโลก คือ ‘การใช้ข้อมูล’ ในงานข่าวอย่างเข้มข้น เพื่อเปิดเผยและฉายภาพปรากฎการณ์ปัญหาต่างๆ ที่ ‘ซ่อน’ อยู่ และส่งเสียงเรียกร้องให้เกิดการ ‘ซ่อม’ ความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ การคอร์รัปชัน และความไร้ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น ไม่เฉพาะในเรื่องเร่งด่วนเกี่ยวกับโควิด-19 แต่รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในอีกหลายมิติที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องและสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เราอยากชวนคุณมาย้อนดู 9 งานข่าวด้านดาต้าที่น่าสนใจจากเวที 2021 Online Journalism Awards ที่ประกาศรางวัลไปเมื่อเดือนตุลาคม 2021 งานข่าวเหล่านี้ตอกย้ำซ้ำๆ ให้เราเห็นได้ชัดว่าการเปิดเผยข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาครัฐนั้นสำคัญมากแค่ไหน

 

1. Missing Them, a COVID-19 Memorial and Accountability Journalism Project

โดย The CITY สหรัฐอเมริกา
? ชนะเลิศรางวัล 2021 Knight Award for Public Service

ย้อนกลับไปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ยอดการเสียชีวิตในนครนิวยอร์กเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก The CITY ห้องข่าวไม่แสวงหาผลกำไรในนิวยอร์กได้รวบรวมข้อมูลและเรื่องราวเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตจากข่าวมรณกรรมบนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ 

เมื่อนำเหล่านี้ข้อมูลมาวิเคราะห์ จึงพบว่าหน้าข่าวมรณกรรมในนิวยอร์กเป็นพื้นที่ของ ‘คนผิวขาว’ ในขณะที่ข่าวมรณกรรมของผู้เสียชีวิตเชื้อชาติอื่น เช่น คนผิวสี หรือลาตินอเมริกัน ซึ่งมียอดเสียชีวิตสูงกว่าคนผิวขวาถึง 2 เท่า กลับมีน้อยมาก

The CITY จึงริเริ่มโปรเจกต์ที่ชื่อว่า MISSING THEM ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้เสียชีวิตชาวนิวยอร์กทุกคนจากโควิด-19 โดยร่วมมือกับ Columbia Journalism School and และ Craig Newmark Graduate School of Journalism ปัจจุบันมีการเผยแพร่เรื่องราวของผู้เสียชีวิตกว่า 2,300 คน ให้เสิชและค้นหาได้ตามอาชีพ

ยังไม่จบแค่นี้ ข้อมูลจากโปรเจกต์นี้ถูกไปเผยแพร่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในท้องถิ่นอีกกว่า 20 แห่ง เช่น Type Investigation NPR และ Vox นำมาสู่การตั้งคำถามและงานข่าวที่น่าสนใจหลายชิ้นตามมา เช่น นักเรียนจากมหาวิทยาลัย Columbia พบว่า 1 ใน 10 ของชาวนิวยอร์กที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ถูกฝังที่ Hart Island ซึ่งผู้เสียชีวิตที่ถูกฝังที่นี่ส่วนใหญ่เคยอาศัยในย่านยากจนและเป็นชุมชนคนผิวสี ประเด็นนี้ต่อมาถูกนำไปขยายต่อโดยสำนักข่าว NBC และ The New York Times

ดูงานได้ที่: https://projects.thecity.nyc/covid-19-deaths/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/missing-them-a-covid-19-memorial-and-accountability-journalism-project/

 

2. Tracking Covid-19 in American Nursing Homes

โดย The New York Times สหรัฐอเมริกา
Finalist รางวัล 2021 Knight Award for Public Service

The New York Times เริ่มติดตามข้อมูลการระบาดและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในบ้านพักคนชราทั่วสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ก่อนที่รัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลทางการสู่สาธารณะเสียอีก จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ พบว่ามีผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่ในบ้านพักคนชราเสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า 184,000 แสนคน ซึ่งนับเป็นถึง 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศ

The New York Times ยังเจาะลึกต่อไปยัง ‘ระบบเรตติ้งของบ้านพักคนชราของรัฐ’ โดยสร้างฐานข้อมูลขึ้นมาวิเคราะห์การจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนในบ้านพักคนชราเหล่านี้ จากรายงานของผู้ตรวจการรัฐกว่า 373,000 ฉบับ และจากงบการเงินของบ้านพักคนชรากว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ ทำให้พบว่า บ้านพักคนชราได้ที่เรตติ้งระดับสูงสุด 5 ดาว 2,400 แห่ง จาก 3,500 แห่ง มีปัญหาการควบคุมการติดเชื้อ และการล่วงละเมิดหรือทำร้ายคนไข้ การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ทำให้ญาติของผู้สูงอายุมีข้อมูลในการติดตามตรวจสอบ และเรียกร้องให้เกิดความโปร่งใสในการจัดการตามมา 

ดูงานได้ที่: https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-nursing-homes.html

Reference: https://awards.journalists.org/entries/tracking-covid-19-in-american-nursing-homes/

 

คุณอาจไม่รู้ว่า ในปีที่ผ่านมาประเด็นข่าวฮอตระดับอินเตอร์ ที่เกิดจากความร่วมมือของสำนักข่าวทั่วโลกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ชื่อว่า ‘FinCEN Files’ ซึ่งทำการสืบสวนปมคอร์รัปชันในวงการการเงินโลก ที่ริเริ่มต้นความฉาวจากธนาคารอินเตอร์ยักษ์ใหญ่ ขยายลามไปทั่วโลกโดยหน่วยงานรัฐในหลายประเทศ 

โปรเจกต์นี้ริเริ่มโดย BuzzFeed News และ  International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ) ร่วมมือกับนักข่าวกว่า 400 คน จาก 110 สำนักข่าว ใน 88 ประเทศ รวบรวมเอกสารจากภาครัฐและเอกสารทางการเงินต่างๆ สืบกันจนพบว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ JPMorgan HSBC Standard Chartered Bank Deutsche Bank ,และ Bank of New York Mellon มีการทำกำไรจากการทำธุรกรรมที่ไม่ชอบมาพากลต่อเนื่อง แม้จะเคยโดนลงโทษปรับหรือทัณฑ์บนจากทางการสหรัฐฯ มาแล้วก็ตาม 

งานชิ้นนี้นำข้อมูลจากแต่ละธุรกรรมมาแสดงให้เห็นเบื้องหลังที่น่าตกใจว่า ระบบการธนาคารของสหรัฐฯ ถูกใช้ในการสร้างกำไรอย่างถูกกฎหมาย เพื่อหล่อเลี้ยงอาชญากรรมระดับโลก ตั้งแต่การค้ายาเสพติด การก่อการร้าย การยักยอกเงินในประเทศกำลังพัฒนา 

ทันที่ที่ข่าวชิ้นนี้รวมทั้งข่าวจากเครือข่ายนักข่าวอีกกว่า 100 ชิ้นเผยแพร่ออกไป ก็เกิดแรงสั่นสะเทือนแทบจะทันที หุ้นของ JPMorgan และธนาคารใหญ่หลายแห่งร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะรัฐบาลหลายประเทศออกมาประกาศเร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง นักกฎหมายทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบ จนในที่สุดหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารถึงกับออกมายอมรับว่า ‘เงินสกปรก’ เหล่านี้ถูกซ่อนไว้อย่างถูกกฎหมายภายใต้ระบบสถาบันการเงินนี่แหละ

ข้อมูลหลักที่ใช้ในงานชิ้นนี้มาจากผู้แจ้งเบาะแสที่นำเอกสารลับจาก The Treasury Department’s Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) ซึ่งมีการเปิดเผยรายงานธุรกรรมต้องสงสัยว่า 2,100 รายงาน เครือข่ายนักข่าวทั่วโลกใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสืบสวนกันต่อ จนได้หลักฐานเอกสารอีกกว่า 17,600 ฉบับ นำมาผลิตเป็นงานข่าวสืบเนื่อง

ดูงานได้ที่: https://www.icij.org/investigations/fincen-files/global-banks-defy-u-s-crackdowns-by-serving-oligarchs-criminals-and-terrorists/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/the-fincen-files/

Kaiser Health News ร่วมกับ AP เปิดโปงความผิดเพี้ยนในการจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณด้านสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในยามวิกฤตโควิด-19 ทีมงานจากทั้งสองห้องข่าวรวบรวมและขอข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขทั้งระดับมลรัฐและท้องถิ่นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องกว่า 150 คน และทำเซอร์เวย์ในสภามลรัฐทั้ง 50 มลรัฐ

งานชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า นับตั้งแต่ปี 2008 มีตำแหน่งงานด้านสาธารณสุขทั้งระดับมลรัฐและท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกาหายไปกว่า 38,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้งบประมาณด้านสาธารณสุขต่อหัวยังลดลงกว่า 18% นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

ถึงแม้ว่ารัฐสภาสหรัฐจะตั้งงบประมาณนับพันล้านในการรับมือกับโควิด-19 แต่กลับพบว่าหลายมลรัฐใช้งบเหล่านี้น้อยมากในงานด้านงานสาธารณสุข ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีการร่างกฎหมายใน 24 มลรัฐเพื่อตัดงบด้านสาธารณสุขอีกด้วย

ความผิดเพี้ยนเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า จนทำให้เกิดการลาออกของผู้นำในวงการสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สร้างประวัติศาสตร์  ซึ่งนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2020 มีผู้นำด้านสาธารณสุขทั้งระดับมลรัฐและท้องถิ่นกว่า 248 คนใน 42 มลรัฐลาออกหรือถูกไล่ออก นั่นหมายความว่าชาวอเมริกัน 1 ใน 6 ต้องสูญเสียผู้นำด้านสาธารณสุขในช่วงระหว่างการระบาดโควิด-19

ฐานข้อมูลเชิงลึกจากงานชิ้นนี้ได้ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ และมีการจัดอบรมแนะนำวิธีการใช้ข้อมูลแก่ห้องข่าวอื่นๆ เพื่อนำไปใช้สืบสวนและรายงานขยายต่อประเด็นนี้ในอนาคตอีกด้วย

ดูงานได้ที่: https://khn.org/news/us-public-health-system-underfunded-under-threat-faces-more-cuts-amid-covid-pandemic/

Reference: 

• https://awards.journalists.org/entries/underfunded-and-under-threat/
• https://www.kff.org/other/press-release/kffs-kaiser-health-news-associated-press-win-online-news-association-award-for-investigative-data-journalism/

วิกฤตโควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้หลายอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมน้ำมันด้วย ราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างมากส่งผลให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งในรัฐเท็กซัสและรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ประสบภาวะล้มละลายและต้องปิดกิจการไป คงเหลือบ่อน้ำมันร้างไว้ให้รัฐต้องจัดการปิด ทำความสะอาด และฟิ้นฟูสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งมีทั้งปัญหาน้ำเสีย ซากสิ่งก่อสร้าง และอาจมีการรั่วไหลของก๊าซมีเทนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน 

สำนักข่าว Grist ร่วมกับ The Texas Observer ขอข้อมูลดิบจำนวนมากจากรัฐนำมาวิเคราะห์ ด้วยโมเดลคณิตศาสตร์และใช้ machine learning จนพบว่ามีบ่อน้ำมันอีกกว่า 13,000 แห่งที่กำลังจะเลิกการผลิตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในขณะที่รัฐประเมินไว้เพียง 7,000 แห่งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าจะต้องใช้งบประมาณอีกราว 1 พันล้านเหรียญฯ และสร้างภาระให้กับผู้เสียภาษี.

นอกจากข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์ขึ้นมาใหม่ รายงานข่าวชิ้นนี้ยังใช้ภาพโดรน ภาพวิดิโอ และ data visualization เพื่อทำให้ผู้อ่านได้เห็นตาด้วยตัวเองถึงปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้โมเดลในการคำนวณยังถูกเปิดเผยสู่สาธารณะให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้อีกด้วย

ดูงานได้ที่: https://grist.org/abandoned-oil-gas-wells-permian-texas-new-mexico/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/waves-of-abandonment/

กรรมการ OJA ให้กล่าวชื่นชมว่า “งานชิ้นนี้คืออุดมคติของการแสดงให้เห็นว่างาน data journalism ทำอะไรได้บ้าง” งานซีรีส์ข่าวเจาะชิ้นนี้ นำเสนอเรื่องราวของ ‘แรงงานข้ามชาติ’ ในสหรัฐอเมริกาที่ถูกลืมจากระบบท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และถูกซ้ำเติมให้ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายกว่าคนอื่นด้วยความไร้ประสิทธิภาพและไม่เป็นธรรมของระบบการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร 

CPI ค้นพบว่าแรงงานข้ามชาติถูกมองข้ามจนเสมือนไม่มีตัวตน การเสียชีวิตของพวกเขาจากโควิด-19 ไม่ได้ถูกรายงานเข้าสู่ฐานข้อมูลด้านแรงงานเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังมีแรงงานจำนวนหนึ่งถูกโกงเงินเยียวยาโควิดเพราะขาดเอกสารยืนยันตัวตน ในขณะที่อีกจำนวนหนึ่งต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับการดูแลความปลอดภัยที่ดีก่อน 

งานชุดนี้หยิบเอาข้อมูลจากการสำรวจสำมะโนประชากรมาแสดงเป็น interactive map ให้เห็นความสำคัญของแรงงานข้ามชาติในธุรกิจระดับภูมิภาค ซึ่งน่าสนใจว่าแรงงานข้ามชาติมีความสำคัญสูงแม้ในภูมิภาคที่โหวตสนับสนุนนโนบายการจำกัดการอพยพเข้าเมืองของทรัมป์ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณานโยบายการสนับสนุนธุรกิจการเกษตรด้วยการออกวีซ่าพิเศษที่เรียกว่า H-2A ยังพบว่ามีการเติบโตถึง 155% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 

เรื่องราวทั้งหมดในงานชิ้นนี้เน้นย้ำให้เห็นความจำเป็นในการปฏิรูประบบการจ้างงานข้ามชาติในสหรัฐอเมริกา เพื่อลดความไม่สมดุลกันของอำนาจระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง ที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน

ดูงานได้ที่: https://publicintegrity.org/inequality-poverty-opportunity/immigration/immigration-employment/trump-covid-19-immigrants-food-supply-farmworkers/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/hidden-hardship/

 

7. Paradise Lost: Hawaii’s Disappearing Beaches

โดย Honolulu Star-Advertiser และ ProPublica สหรัฐอเมริกา
? ชนะเลิศรางวัล 2021 Explanatory Reporting ประเภทห้องข่าวขนาดกลาง

เมื่อพูดถึงฮาวาย หลายคนคงนึกถึงชายหาดที่สวยงาม แต่รู้ไหมว่าปัจจุบันชายหาดราว 1 ใน 4 ของเกาะโอวาฮู เมาวี และคาไว ในหมู่เกาะฮาวาย ถูกกัดเซาะพังทลาย จนบางแห่งหายไป เพราะการสร้างกำแพงป้องกันคลื่นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา

Sophie Cocke นักข่าวการเมืองและสิ่งแวดล้อมจากสำนักข่าว Honolulu Star-Advertiser ร่วมกับสำนักข่าว Propublica พยายามค้นหาสาเหตุของปัญหาจนพบข้อมูลช่องโหว่ทางกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ใช้อนุญาตยกเว้นให้สร้างกำแพงป้องกันคลื่นได้ แม้ฮาวายจะมีกฎหมายอนุรักษณ์ชายหาดที่จริงจังก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการปัดตกกฎหมายที่เพิ่มความเข้มงวดในการอนุรักษ์ชายหาดหลายต่อหลายฉบับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ข้อค้นพบที่น่าตกใจก็คือ นับตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งมีการบังคับนนโยบายป้องกันชายฝั่ง กลับมีการยกเว้นอนุญาตให้สร้างกำแพงห้องกันคลื่นให้แก่ เจ้าของบ้าน โรงแรม และคอนโด กว่า 230 กรณี ซึ่งหลายแห่งกระจุกตัวอยู่ในบริเวณชายฝั่งที่เปราะบางและล้ำค่าของรัฐ นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าของพื้นที่ที่ได้รับการยกเว้นเหล่านี้บางรายร่ำรวยหรือมีเส้นสายทางการเมืองจนน่าสงสัยว่าอาจะได้รับการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ

งานชิ้นนี้ใช้ภาพถ่ายมุมสูงและแผนที่แสดงให้เห็นการพังทลายและหายไปของพื้นที่ชายหาด ให้ผู้อ่านได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน และร่วมกันตั้งข้อสังเกตกับความหละหลวมของการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้น

ดูงานได้ที่: https://projects.propublica.org/hawaii-beach-loss/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/paradise-lost-hawaiis-disappearing-beaches/

 

8. Sports and the Pandemic

โดย The News York Times สหรัฐอเมริกา
? ชนะเลิศรางวัล 2021 Sports ประเภทห้องข่าวขนาดใหญ่

การระบาดของโควิด-19 สร้างผลกระทบมหาศาลต่อวงการกีฬา ทีมข่าวกีฬาของสำนักข่าว the New York Times จึงรวบรวมและสร้างสรรค์ซีรีส์ข่าวชุดนี้ขึ้นเพิ่มรวบรวมประสบการณ์ความยากลำยากที่เกิดขึ้นในแวดวงกีฬาท่ามกลางโควิด-19 นำเสนอออกมาในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้ง data visualization photo essay และบทความ เพื่อให้ผู้อ่านได้ลองหยุดและทบทวนตั้งคำถามกับการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความหมายใหม่ให้กับเรา

หนึ่งในงานด้านข้อมูลที่น่าสนใจนี้ซีรีส์ชุดนี้ คือ 2020: The Year in Sports When Everybody Lost ซึ่งสำรวจความสูญเสียทางเศรษฐกิจของวงการกีฬาในสหรัฐอเมริกา รายงานจาก PwC ชี้ให้เห็นว่ามูลค่าอุตสาหกรรรมกีฬาในสหรัฐฯ หายไปกว่า 1 ใน 3 จากการงดเว้นการเข้าชมกีฬาแบบสด นำสู่การตกงานของคนในอุตสาหกรรมกีฬาจำนวนไม่น้อยในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 

ดูงานได้ที่: 

• https://www.nytimes.com/interactive/2020/12/13/sports/coronavirus-sports-economy-wisconsin.html
• https://www.nytimes.com/interactive/2021/03/06/sports/coronavirus-canceled-sports.html
• https://www.nytimes.com/2020/12/28/sports/football/2020-year-in-review-photos.html

Reference: https://awards.journalists.org/entries/sports-and-the-pandemic/

 

9. Power Gap

โดย The Globe and Mail แคนาดา
Finalist 2021 The Al Neuharth Innovation in Investigative Journalism Award ประเภทห้องข่าวขนาดใหญ่

“เราไม่สามารถซ่อมสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้”

สำนักข่าว The Global and Mail ในแคนนาดา ใช้ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ ‘ช่องว่างทางอำนาจ’ ของความไม่เท่าเทียมระหว่างชายหญิงในการทำงานให้ลึกซึ้งมากขึ้นเพื่อเห็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ โดยริเริ่มรวบรวมข้อมูลเงินเดือนของเจ้าพนักงานระดับสูงในภาครัฐ อาจารย์มหาวิทยาลัย รัฐวิสาหกิจ และองค์กรไม่แสวงหากำไร ที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะผ่านกฎหมาย ‘Sunshine Laws’ ทุกปี จนได้ฐานข้อมูลเงินเดือนจำนวน 90,000 คน จาก 244 สถาบัน นำมาวิเคระห์ร่วมกับข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแคนาดา และเจาะลึกวิเคราะห์ข้อมูลประวัติผู้มีรายได้สูงกว่า 1,000 คน ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรกว่า ‘ผู้หญิง’ มีที่ทางอยู่ตรงไหนกันแน่ในการทำงาน

งานชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้ช่องว่างทางรายได้จะเป็นประเด็นสำคัญ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือการขาดผู้หญิงในตำแหน่งงานบริหารระดับสูง เพราะผู้หญิงจำนวนมากไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นผู้บริหารได้ และนี่เองคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ช่องว่างทางอำนาจ’ ที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้น

ในงานชิ้นนี้ ผู้อ่านสามารถนำสำรวจปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ในองค์กรประเภทต่างๆ เช่น รัฐวิสาหกิจ เทศบาล มหาวิทยาลัย หรือองค์กรรัฐระดับจังหวัด ผ่าน data visualiztion ที่สรุปข้อมูลเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน

แรงกระเพื่อมจากงานชิ้นนี้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามมาไม่น้อย เช่น รัฐบาลกลางออกมารับปากว่าจะพัฒนาการเก็บข้อมูลบนฐานเพศสภาพและเชื้อชาติให้ดียิ่งขึ้น ด้วยงบประมาณกว่า 172 ล้านเหรียญแคนาดา รัฐบาลรัฐออนแทรีโอออกมายอมรับปัญหาที่ส่งผลต่อเส้นทางอาชีพของผู้หญิงในภาครัฐ นอกจากนี้บริษัทด้านกฎหมายใหญ่ 20 แห่งในแคนนาดายังออกมาประกาศเปิดเผยข้อมูลช่องว่างรายได้อีกด้วย

ดูงานได้ที่:

• https://www.theglobeandmail.com/canada/article-power-gap/
• https://www.theglobeandmail.com/canada/article-power-gap-main/

Reference: https://awards.journalists.org/entries/power-gap-2/

 

ยังมีงานข่าวเจ๋งๆ ที่ได้รับรางวัลและรอบไฟนอลในสาขาอื่นๆ อีกมากมาย ที่บอกเลยว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ไปตามดูกันได้ที่ https://awards.journalists.org/