200 ปีที่แล้ว กว่า 80% ของประชากรโลก อยู่ใต้ระบอบการปกครองแบบเผด็จการหรือจักรวรรดินิยม ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจด้วยตัวเอง เทียบกับตอนนี้ ประชากรโลก 56% ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย..อย่างน้อยก็ตามที่ฐานข้อมูลบอก
จากข้อมูลรูปแบบการเปลี่ยนแปลงการปกครองตลอด 200 ปีที่ผ่านมา Visual Capitalist จึงได้นำเอามาแสดงเป็นภาพ (visualization) เพื่อให้เห็นภาพและข้อมูลกันชัดขึ้น โดยหยิบเอาข้อมูลจาก Polity data series หนึ่งในฐานข้อมูลด้านรัฐศาสตร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ประกอบกับข้อมูลจาก Our World in Data โดยนักเศรษฐศาสตร์ Max Roser แสดงออกมาเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของโลกตลอด 200 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลชุดนี้ของ Polity เป็นการวัดระดับประชาธิปไตยเชิงประจักษ์ โดยอ้างอิงจาก โอกาสและความสามารถในการแข่งขันในการเลือกตั้ง เสรีภาพในการเคลื่อนไหวหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง และการใช้อำนาจของผู้มีอำนาจ มีการให้คะแนนเพื่อวัดระดับตั้งแต่ -10 ถึง 10
ซึ่งทำให้สามารถจัดรูปแบบการปกครองของแต่ละประเทศเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- กลุ่มประเทศในอาณานิคม (Colony) คืออยู่ใต้การควบคุมหรือปกครองของประเทศอื่น หรือผู้ตั้งถิ่นฐานจากประเทศอื่น เช่น ?? Gibraltar, ?? Guam, ?? French Polynesia
- เผด็จการ/อัตตาธิปไตย(Autocracy) คือมีบุคคลผู้มีอำนาจเด็ดขาดควบคุมหรือปกครองประเทศ เช่น ?? China, ?? Saudi Arabia, ?? North Korea
- Closed Anocracy เป็นนิยามของรูปแบบการปกครองที่ผสมระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ โดยผู้มีส่วนร่วมทางการเมืองส่วนใหญ่จะมาจากชนชั้นปกครองหรือกลุ่มเครือข่ายผู้มีอำนาจ เช่น ?? Thailand, ?? Morocco, ?? Singapore
- Open Anocracy คล้ายกันกับ Closed Anocracy แต่ผู้มีส่วนร่วมทางการเมืองจะมาจากหลากหลายกลุ่มมากกว่า เช่น ?? Russia, ?? Malaysia, ?? Bangladesh
- ประชาธิปไตย (Democracy) คือประชาชนสามารถใช้อำนาจผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้งได้อย่างแท้จริง เช่น ?? United States, ?? Germany, ?? India
ซึ่งข้อมูลของแต่ละประเทศ ได้ถูกนำมาแสดงผลเป็นกราฟที่บ่งบอกถึงจำนวนประชากรทั้งโลกที่อยู่ใต้ระบอบปกครองประเภทต่างๆ ในแต่ละปี พร้อมอีกกราฟที่เปรียบเทียบว่าประชากรเหล่านั้นคิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของโลก จากกราฟก็พอจะเห็นได้ว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในหลายๆ ประเทศ
และประชาธิปไตยได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 จากการที่กลุ่มประเทศอเมริกาใต้และยุโรปตะวันออก หันมาใช้ระบอบนี้มากขึ้น
เมื่อมองในแง่ของเทรนด์การเติบโตตามช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ ประชาธิปไตยอาจจะดูเหมือนยังอ่อนเยาว์ เพราะจากข้อมูลแล้วก็เพิ่งเริ่มเติบโตเป็นระบอบการปกครองส่วนใหญ่ของโลกเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ดูมีแนวโน้มและความหวังที่จะเติบโตต่อไป ..อย่างน้อยก็ตามที่ฐานข้อมูลบอก
อ้างอิงจาก visualcapitalist.com